27 กรกฎาคม 2024
อสังหาริมทรัพย์

อุตฯโลกย้ายฐานการผลิตสู่ไทย “MK” ชู’คลังสินค้า-รง.’เรือธงรับเติบโต

‘มั่นคงเคหะการ’ปรับโครงสร้างธุรกิจอีกครั้ง หลังลดน้ำหนักพอร์ตธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ ล่าสุดปรับโครงสร้างธุริจ เร่งขยายธุรกิจ“คลังสินค้า” และ “โรงงานให้เช่า” เป็นเรือธงหลัก รับโอกาสภาคอุตสาหกรรมโลกขยายฐานการผลิตสู่อาเซียน หนุนการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน เตรียมขอผู้ถือหุ้น ขายหุ้น’อาร์เอ็กซ์ เวลเนส’ 100% ให้แก่ เอฟเอ็นเอส โฮลดิ้งส์ฯ และสิทธิการเช่าที่ดิน 10 ปี รวมมูลค่าทั้งหมด 2,130 ลบ. พร้อมซื้อหุ้นสามัญ “BFTZWN” บริษัทย่อยเพิ่ม เพิ่มถือหุ้นเป็น 100% รวมถึงซื้อหน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในกองอสังหาฯ พรอสเพค โลจิสติกส์และอินดัสเทรียล เพิ่มเป็น 30.80% มั่นใจส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานของบริษัท

นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK กล่าวถึงการปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัทฯ ว่า คณะกรรมการของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ได้มีมติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 ในวันที่ 1 มีนาคม 2567 นี้ เพื่อขออนุมัติปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยบริษัทฯ จะขายหุ้นสามัญของบริษัท อาร์เอ็กซ์ เวลเนส จำกัด หรือ “RXW” ธุรกิจให้บริการด้านสุขภาพแก่ในจำนวน 13,799,998 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท คิดเป็นสัดส่วน 100% ของหุ้นที่ได้จำหน่ายแล้วทั้งหมด ให้แก่บริษัท เอฟเอ็นเอส โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (FNS) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ มูลค่าประมาณ 276 ล้านบาท และจำหน่ายทรัพย์สินที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์เพื่อการประกอบธุรกิจบริการด้านสุขภาพมูลค่าประมาณ 84 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 360 ล้านบาท พร้อมให้สิทธิการเช่าที่ดินและอาคารสำหรับธุรกิจการให้บริการด้านสุขภาพฯ เป็นเวลารวม 10 ปี มูลค่าการเช่ารวมประมาณ 1,770 ล้านบาท นอกจากนี้ FNS จะต้องให้กู้ยืมเงินแก่ RXW เพื่อนำมาคืนเงินกู้และดอกเบี้ยแก่บริษัทฯ

ขณะเดียวกันจะขออนุมัติซื้อหุ้นสามัญและหน่วยทรัสต์จาก FNS ประกอบด้วย 1) หุ้นสามัญของ BFTZWN จำนวนทั้งสิ้น 24,999 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 100 บาท ในราคาหุ้นละ 2,000.08 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 50 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 50% ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด และ 2) หน่วยทรัสต์ PROSPECT REIT จำนวนทั้งสิ้น 83,212,061 หน่วย มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หน่วยละ 9.4697 บาท ในราคาหน่วยละ 9.3885 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 781 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 22.19% ของหน่วยทรัสต์ที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด

ทั้งนี้ ภายหลังการปรับโครงสร้างธุรกิจ จะส่งผลให้บริษัทฯ มีสัดส่วนถือหุ้น BFTZWN ผ่านบริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด จากเดิม 50% เพิ่มเป็น 100% และมีอำนาจตัดสินใจและสิทธิในการบริหารอย่างเบ็ดเสร็จ รวมถึงเพิ่มสัดส่วนการถือหน่วยทรัสต์ PROSPECT REIT จาก 8.61% เพิ่มอีก 22.19% รวมเป็น 30.80% ของหน่วยทรัสต์ที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด ตลอดจนเพิ่มอำนาจในการตัดสินใจทำให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังได้รับผลประโยชน์ตอบแทนจากสัดส่วนการถือหน่วยทรัสต์ที่เพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มสภาพคล่องด้านเงินลงทุนให้กับบริษัทฯ เนื่องจากหน่วยทรัสต์ PROSPECT REIT มีสภาพคล่องในการซื้อขายที่ดี

“การปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทในอนาคต ที่มุ่งเน้นให้มีการเติบโตจากธุรกิจอาคารคลังสินค้าและอาคารโรงงานให้เช่า ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นธุรกิจหลัก เพราะ BFTZWN และ PROSPECT REIT เป็นบริษัทและกองทรัสต์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอาคารคลังสินค้าและโรงงานให้เช่า ที่มีอัตราการเติบโตที่ดี และจะส่งผลต่อการเติบโตของผลการดำเนินงานที่มั่นคงในอนาคต”

ขณะที่ธุรกิจให้บริการด้านสุขภาพอยู่ในช่วงเริ่มเปิดดำเนินการ ได้รับผลกระทบจากโควิดในช่วงที่ผ่านมา การขายหุ้นจะทำให้บริษัทฯ ลดภาระการจัดหาเงินทุนเพื่อการดำเนินงานและขยายการลงทุน

“ธุรกิจคลังสินค้าและโรงงานให้เช่า มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องตามทิศทางเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย ที่กำลังทยอยฟื้นตัวหนุนการเติบโตของภาคการค้าระหว่างประเทศ ทั้งยังได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว ช่วยกระตุ้นความต้องการบริโภคสินค้า ส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของภาคการผลิต ขณะที่การลงทุนในประเทศยังได้แรงหนุนจากการพัฒนาโครงการในนิคมอุตสาหกรรม โดยเฉพาะแนวระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) และความพร้อมของห่วงโซ่อุปทานในภาคการผลิตสำคัญของไทย เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ และสิ่งทอ รวมถึงความต้องการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์โลก อาทิ การขยายฐานการผลิตรถยนต์ EV ของประเทศจีนมาไทย และการขยายฐานการผลิตของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีมายังประเทศไทย เป็นต้น ล้วนเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจคลังสินค้าให้เช่าและอาคารโรงงานให้เช่า เพื่อรองรับอุปสงค์ที่มีทิศทางเติบโตต่อเนื่องในระยะข้างหน้า โดยธุรกิจคลังสินค้าและอาคารโรงงานให้เช่า เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ทางบริษัทฯมองว่า ประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งขันสูง ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทต่างชาติใช้ไทยเป็นฐานการผลิตจนเป็นที่ยอมรับ และมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง”นายวรสิทธิ์ กล่าว

สำหรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจของ มั่นคงเคหะการฯ มี 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ (1) ธุรกิจพัฒนาอสังหาฯเพื่อขาย ภายใต้แบรนด์บ้าน “ชวนชื่น” (2) ธุรกิจอาคารคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าผ่านบริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด และ (3) ธุรกิจให้บริการด้านสุขภาพและให้บริการด้านที่พักภายใต้ RXW มีสถานที่การให้บริการด้านสุขภาพ 2 แห่ง ได้แก่ โครงการรักษ เวลเนส บางกระเจ้า ภายใต้แบรนด์ “Rakxa” รวมเนื้อที่ 108 ไร่ และโครงการอาร์เอ็กซ์วี เวลเนส วิลเลจ ภายใต้แบรนด์ “RXV” เนื้อที่ 10 ไร่.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทุบสถิติ ตร.ม.ละล้าน ‘98 WIRELESS’ ของแสนสิริ ครองแชมป์ อสังหาฯ ราคาขายต่อ แพงสุดในไทย

ThaiSmartBiz

ออริจิ้นคว้า “ธีรเดช เกิดสำอางค์” นั่งซีอีโอบริทาเนีย เสริมทัพพอร์ตบ้านเดี่ยว 2.5-50 ล้าน

ThaiSmartBiz

Reignwood Park เมกะโปรเจกต์มิกซ์ยูส บนพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ จาก Reignwood Park [PR News]

ThaiSmartBiz