Xiaomi เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ Redmi Note 13 Series พร้อมเปิดตัว แบมแบม ในฐานะแอมบาสเดอร์คนแรกของเสียวหมี่ อินเตอร์เนชั่นแนล ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
จุดเด่นของ “Redmi Note 13 Series” มีหลายอย่าง อาทิ กล้องหลักความละเอียดสูงสุดถึง 200MP ที่มาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออพติคอล (OIS) หน้าจอแสดงผลแบบโค้ง 120Hz AMOLED ความละเอียด 1.5K พร้อม Corning® Gorilla® Glass Victus®
มร.อเล็กซ์ ถัง ผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เสียวหมี่ อินเตอร์เนชั่นแนล ให้ข้อมูลว่า “เสียวหมี่เป็นแบรนด์เทคโนโลยีชั้นนำของโลกที่ออกแบบ และผลิตสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์ AIoT ต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของผู้คนซึ่งรวมถึงคนรุ่นใหม่ที่เป็นกลุ่มที่มีไลฟ์สไตล์โดดเด่น กล้าแสดงออก เป็นตัวของตัวเอง การรุกตลาดสมาร์ตโฟนระดับกลางด้วยการเปิดตัวสมาร์ตโฟน “Redmi Note 13 Series” ครั้งนี้ เราได้มีการเปิดตัวแอมบาสเดอร์คนแรกของเสียวหมี่ อินเตอร์เนชั่นแนล ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากคอนเซ็ปต์ Every shot iconic หรือ โดดเด่นในทุกช็อต ซึ่งเป็นสโลแกนของสมาร์ตโฟน Redmi Note 13 Series ซึ่งจะช่วยส่งเสริมด้านการสื่อสาร และสะท้อนภาพลักษณ์รวมทั้งคอนเซ็ปต์ของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ทั้งยังจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ทั่วโลกได้ เพราะ “แบมแบม” เป็นตัวอย่างของคนที่มีทั้งความสามารถ และความพยายามในสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ และเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่เลือกใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด”
สำหรับรุ่นที่พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย มีทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ Redmi Note 13 Pro+ 5G, Redmi Note 13 5G และ Redmi Note 13
ราคาและการวางจำหน่าย
Redmi Note 13 Pro+ 5G (8GB + 256GB) ราคา 13,990 บาท
Redmi Note 13 Pro+ 5G (12GB + 512GB) ราคา 15,990 บาท
Redmi Note 13 5G (8GB + 256GB) ราคา 7,999 บาท
Redmi Note 13 5G (12GB + 512GB) ราคา 9,999 บาท
Redmi Note 13 (8GB + 256GB) ราคา 6,999 บาท
โดยจะเปิดพรีออเดอร์ตั้งแต่วันที่ 16-26 มกราคม 2567 ซึ่งในรุ่น Redmi Note 13 Pro+ 5G (8GB + 256GB) จะได้รับการอัปเกรดเป็น Redmi Note 13 Pro+ 5G (12GB + 512GB) และแถมประกันจอแตก 6 เดือนฟรี
นอกจากนี้จะวางจำหน่ายที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม